ผมว่าถ้าเลือก ได้ บ้านของเรา ควรจะสร้างเอง จะดีกว่าไปซื้อ บ้านจัดสรร เยอะเลย แต่ติดปัญหาที่ เราไม่มีเงินพอที่จะลงทุนไปก่อนเท่านั้นเอง ถ้าประยุกต์ได้ใช้ระบบสำเร็จรูปเองก็ได้ครับ จะง่ายกว่า แต่ต้องมีความต่อเนื่องที่จุดต่อ เสาและคาน เท่าที่ดู บริษัท รับสร้างบ้าน ที่ทำก็มักจะใช้ช่าง ไม่มีวิศวกรควบคุมงาน เลย ดูแล้วไม่แข็งแรงเลย มีอยู่ รายหนึ่ง ต้องจ้างทั้ง วิศวกร และ ทนายความ เข้าไปเอง เพื่อ ดูงานสร้างบ้าน เพื่อไม่ให้มีปัญหา
|
ที่มา : นายช่างนิด พีดี เฮ้าส์ |
|
|
โครงสร้างสำเร็จรูป |
|
|
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในงานก่อสร้างในปัจจุบัน ช่วยทำให้การทำงานสะดวกรวดเร็วมากขึ้นโดยการนำโครงสร้างสำเร็จรูปมาใช้ในงานก่อสร้าง จึงทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
การก่อสร้างอาคารบ้านเรือนแบบเดิมจะต้องใช้วิธีเทคอนกรีตในที่ จึงต้องมีขั้นตอนการตีแบบ ผูกหรือเสริมเหล็ก ผสมคอนกรีต เทคอนกรีต และรอเวลาให้คอนกรีตแห้ง เพื่อถอดแบบออกและต้องบ่มคอนกรีตอีกระยะหนึ่ง จึงจะทำงานขั้นต่อไปได้ ขั้นตอนดังกล่าวทำให้เสียเวลาไปมาก
วิวัฒนาการของการก่อสร้างในปัจจุบัน จึงได้มีการผลิตโครงสร้างสำเร็จรูป ซึ่งมีตั้งแต่ฐานรากสำเร็จรูปทั้งชนิดฐานรากเสาเข็มและฐานรากแผ่ เสาสำเร็จรูป คานสำเร็จรูป บันไดสำเร็จรูป พื้นห้องน้ำสำเร็จรูป (สำหรับพื้นสำเร็จรูปใช้กันแพร่หลายมาก่อนหน้านี้แล้ว) แต่พื้นห้องน้ำเดิมนั้นต้องเทในที่เพราะต้องมีการวางตำแหน่งท่อน้ำไว้ด้วย
การติดตั้งชิ้นส่วนของโครงสร้างสำเร็จรูป ที่เรียกว่าระบบรอยต่อแบบ SOCKET ตามที่ผู้ผลิตคนไทยได้พัฒนาระบบโครงสร้างสำเร็จรูปให้ก้าวไปอีกระดับหนึ่ง โดยใช้เดือยเหล็กทำหน้าที่รับแรงเฉือนที่เกิดขึ้น และถ่ายเทน้ำหนักจากคานลงสู่เสาหรือจากคานลงสู่คานอีกตัวหนึ่ง โครงสร้างสำเร็จรูปทุกชิ้นได้รับการออกแบบตามมาตรฐานทางวิศวกรรม จึงมั่นใจได้ในเรื่องความแข็งแรงปลอดภัย
การใช้โครงสร้างสำเร็จรูป นอกจากจะช่วยให้การก่อสร้างเร็วขึ้นแล้ว ยังมีข้อดีในเรื่องความเที่ยงตรงของคุณภาพของโครงสร้าง เพราะการผลิตโครงสร้างในระบบโรงงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั้น สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่างานโครงสร้างหล่อในที่
|
 |
|
|
|
บทความ ประดับความรู้
ตลอดช่วงเดือนมกราคมนี้ สื่อต่างๆได้โหมประโคมข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จนกระทั่งเมื่อรัฐบาลได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือออกมาเรียบร้อยแล้ว บรรดาสื่อก็ยังกระพือข่าวกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ประกอบการฝ่ายที่ได้รับการอุ้มจากมาตรการที่ออกมาและฝ่ายที่อกหัก โดยเฉพาะบรรดาผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ สมาคมอาคารชุด และสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ฯลฯ ต่างชิงพื้นที่ข่าวในแวดวงอสังหาฯ เพื่อต้องการจะสื่อสารไปถึงรัฐบาลและประชาชนที่สนใจ โดยตัวแทนของหลายหน่วยงานต่างก็นำเสนอข้อมูลผ่านสื่อแขนงต่างๆ ถึงตัวเลขทางการค้าและผลกระทบที่ได้รับ รวมถึงความจำเป็นที่ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการมาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค พร้อมๆกับชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่รับจากการขับเคลื่อนของภาคธุรกิจมากมาย
ในระหว่างที่ข้อเสนอจากบรรดาผู้ประกอบการและหน่วยงานที่กล่าวมา ได้ถูกส่งถึงฝ่ายการเมืองหรือทีมทำงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล บังเอิญว่ากระผมมีโอกาสได้พบกับผู้สื่อข่าวอสังหาฯและเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับ ซึ่งได้ขอ Comment ในเรื่องที่ผู้ประกอบการและตัวแทนของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนเพื่อต้องการร้องขอให้รัฐบาลออกมาตรการ กระตุ้นตลาดรับสร้างบ้านว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่และมากน้อยเพียงใด ในฐานะที่กระผมเป็นผู้หนึ่งที่มีข้อมูลน่าเชื่อถือ เพราะศึกษาและติดตามตัวเลขมูลค่าตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านมาโดยตลอด ก็เลยแสดงความเห็นแบบแบบตรงไปตรงมาว่า...ไม่มีทางเป็นไปได้
ทั้งนี้ก็ได้ให้เหตุผลสนับสนุนคำตอบดังกล่าวคือ
1.ตัวเลขมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านที่ตัวแทนสมาคมฯกล่าวอ้างถึงมิใช่ตัวเลขที่แท้จริง แต่เป็นตัวเลขรวมทั้งระบบการสร้างที่อยู่อาศัยของประชาชน ที่จริงมูลค่าของตลาดรับสร้างบ้านเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น อาจเป็นไปได้ที่ผู้ให้ข่าวเน้นพีอาร์มากเกินไปเพื่อต้องการให้ดูน่าสนใจ
2.สมาคมฯไม่เคยเก็บตัวเลขมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านอย่างเป็นทางการ หรือไม่เคยส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานเอกชนที่น่าเชื่อรวบรวม เช่น ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฉะนั้นข้อมูลจึงไม่มีแหล่งอ้างอิงที่มา นอกจากตัวเลขคาดการณ์หรือโดยประมาณเท่านั้น และหากพิจารณามูลค่าส่วนแบ่งตลาดเฉพาะในกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ ยิ่งเห็นว่ามูลค่าตลาดรวมมีจำนวนน้อยมาก เมื่อตรวจสอบข้อมูลงบดุลย์บริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
3.จากข้อ 1, 2 มีผลมาจากผู้ประกอบการในธุรกิจสร้างบ้าน ทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้รับเหมาและบริษัทรับสร้างบ้านอย่างน้อย 70% ของผู้ประกอบการทั้งหมด หลีกเลี่ยงหรือหลบภาษีมูลค่าเพิ่ม ด้วยการรับจ้างสร้างบ้านโดยไม่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะตามจับผิด เหตุเพราะว่าผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของบ้านร่วมมือด้วย เพราะจะช่วยให้ราคาค่าก่อสร้างบ้านลดลงเป็นเงินหลักแสนบาท
4.มองว่ารัฐบาลคงไม่สามารถพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและธุรกิจรับสร้างบ้าน เพียงแค่ได้อ่านตัวเลขหรือข้อมูลของธุรกิจรับสร้างบ้านจากในหน้าข่าวหนังสือพิมพ์เท่านั้น ข้อมูลของฝั่งผู้ประกอบการต้องชัดเจนกว่านี้
พร้อมกันนี้ยังได้แสดงความเห็นและเสนอแนะต่อเรื่องดังกล่าวว่าเมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง เลขาธิการสมาคม เคยเสนอและผลักดันเรื่องการรวบรวมและส่งข้อมูลของสมาชิกสมาคมฯ ให้กับศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์เก็บรวมรวม ทั้งนี้เพื่อจะได้ไว้ใช้เป็นข้อมูลทางวิชาการและรับรู้ถึงภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจและในยามที่ตลาดถดถอยเช่นในวิกฤติครั้งนี้ จะได้นำเสนอต่อภาครัฐเหมือนเช่น 3 สมาคมฯได้ปฏิบัติกัน แต่ปรากฏว่าคราวนั้นกระผมโดนสมาชิกและคณะกรรมการตอกกลับจนต้องถอนเรื่องดังกล่าวออกจากวาระการพิจารณาของกรรมการบริหารสมาคมฯ
อีกประเด็นที่ได้ให้สัมภาษณ์และพูดคุยกับสื่อมวลชนก็คือ คณะกรรมการสมาคมฯชุดปัจจุบัน ได้มีการแก้ไขข้อบังคับสมาคมฯเกี่ยวกับการรับสมัครสมาชิกใหม่ ซึ่งในรายละเอียดข้องข้อบังคับพบว่ามีการแก้ไขจากข้อบังคับเดิมเพื่อกีดกันการเข้าเป็นสมาชิกสมาคมฯ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหม่ที่ประกอบธุรกิจไม่ครบ 3 ปี...ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมเป็นสมาชิก ในขณะที่กระผมตรวจสอบพบว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามาเป็นสมาชิกสมาคมฯ ก่อนการแก้ไขข้อบังคับสมาคมฯเพียงไม่กี่วันหลายราย โดยที่สมาชิกกลุ่มนี้จัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่และบางรายเป็นบริษัทจดทะเบียนมาก่อน แต่ทำธุรกิจขายดอกไม้สดและดอกไม้แห้ง มายื่นจดขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกสมาคมฯ...ประเภทธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งกระผมได้อธิบายให้เห็นประเด็นผิดสังเกตุและเห็นว่านี่คือ...การกีดกัน ทั้งๆที่วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสมาคมฯขึ้นมานั้น โดยวัตถุประสงค์หลักต้องการจะรวบรวมผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านที่มีอยู่ เพื่อจะดมความคิดเห็นและยกระดับผู้ประกอบการ พร้อมๆกับร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านให้เติบโตแบบยั่งยืน มิใช่เศรษฐกิจฟุบผู้ประกอบการก็ล้มลง และวันใดเศรษฐกิจดีก็แห่กันเข้ามาแข่งขันโดยขาดความเป็นมืออาชีพ รวมถึงการขจัดผู้ประกอบการประเภทเหลือบหรือฉ้อฉลออกไปจากธุรกิจรับสร้างบ้าน
เมื่อสื่อมวลชนได้นำความคิดเห็นของกระผมเตีพิมพ์เผยแพร่ ก่อนหน้าที่ผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีจะออกมา 2-3 วัน และปรากฏว่าตรงกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ออกมา คือเลือกเฉพาะกลุ่มบ้านจัดสรรเท่านั้น โดยธุรกิจรับสร้างบ้านและบ้านมือสองไม่ได้รับมาตรการช่วยเหลือครั้งนี้ คงจะไม่เป็นที่พอใจของคณะกรรมการสมาคมฯที่กระผมให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อออกไป และคงเห็นว่าเป็นเพราะการให้สัมภาษณ์ของกระผมกระมัง จึงทำให้รัฐบาลไม่พิจารณาให้ความช่วยเหลือ (กลายเป็น...แพะ) ถึงกับว่ามีอุปนายกสมาคมโทรศัพท์มาพูดคุยกับกระผม โดยบอกว่าได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการสมาคมฯให้เป็นคณะทำงาน เพื่อมาเจรจาและพูดคุยถึงกระผมที่ให้สัมภาษณ์ทำลายชื่อเสียงและภาพพจน์ของสมาคมฯ ทั้งนี้อ้างว่ากระผมไม่ควรให้สัมภาษณ์เช่นนี้เพราะเป็นสมาชิกสมาคมฯ แต่หากไม่เป็นสมาชิกสมาคมฯก็ไม่ว่ากัน กระผมจึงถามว่าหมายความว่าถ้ากระผมลาออกจากสมาชิกสมาคมฯ จึงจะมีสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ยังไงก็ได้หรือ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า...ทำนองนั้น
กระผมเองรู้สึกประหลาดใจปนความเศร้าใจว่า...ทำไม ? สมาคมฯที่ตัวเองมีส่วนสำคัญคนหนึ่งเป็นผู้ริเริ่มและผลักดันให้ถือกำเนิดขึ้น มาบัดนี้บางคนจึงคิดว่ากระผมจะทำลายหน่วยงานแห่งนี้ และคณะกรรมการชุดปัจจุบัน...คิดได้ยังไง ถึงกับต้องตั้งคณะทำงานมาเจรจากับกระผม มันสำคัญมากเชียวหรือ ? ทำไมไม่ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสิ่งที่กระผมแสดงความคิดเห็นว่า...จริงหรือไม่ และควรปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ หากไม่เข้าใจจะแยกแยะให้เป็นข้อๆตามที่ให้สัมภาษณ์ไป ดังนี้
1.ควรร่วมมือกับศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดเก็บและรวบรวมข้อมูลมูลค่าตลาดรับสร้างบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้สมาชิกบางรายอ้างว่าข้อมูลที่ศูนย์ข้อมูลจัดเก็บมั่วนิ่ม แต่ทำไมวันนี้ตัวเลขมูลค่าตลาดรับสร้างบ้าน สมาคมฯจึงอิงและอ้างถึงข้อมูลบ้านสร้างเองของศูนย์ฯอยู่บ่อยๆ
2.ตรวจสอบและผลักดันให้สมาชิกและผู้ประกอบการไม่เลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม และเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจ พร้อมๆกับขจัดผู้ประกอบการที่ทำผิดกติกาออกไป (ฤา...กลัวว่าจะกระทบกับตัวเองด้วย)
3.วันนี้สมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมีจำนวนไม่ถึง 50 ราย ในขณะที่ 3 สมาคมฯ (อสังหาฯ บ้านจัดสรร อาคารชุด) มีสมาชิกนับ 1,000 รายทั่วประเทศ ทำไม ? คณะกรรมการสมาคมฯชุดปัจจุบันถึงออกข้อบังคับมากีดกันสมาชิกใหม่ โดยอ้างว่าต้องการคัดเฉพาะผู้ประกอบการมืออาชีพเท่านั้น ซึ่งขัดแย้งกับวัตถุประสงค์การก่อตั้งสมาคมฯและกรณีกรรมการบางท่านเอาเปรียบด้วยการจดทะเบียนบริษัทฯใหม่ขึ้นมา จากนั้นก็นำมายื่นสมัครสมาชิกไว้ก่อนที่ข้อบังคับจะถูกแก้ไข ซึ่งเท่ากับว่ากรรมการบางรายมีบริษัทของตัวเองเป็นสมาชิกมากกว่า 1 ราย...ไม่ทราบว่าทำเช่นนี้เพื่ออะไรกัน ? (มีคำชี้แจง ?)
อะไรไม่สำคัญเท่า...สู้เอาเวลาทีซุบซิบนินทาและสร้างข่าวลือที่ว่า กระผมจ่ายเงินจ้างนักข่าวเขียนข่าวโจมตีสมาคมฯ...(นักมวยแข่งขันกัน เขาไม่ชกใต้เข็มขัดนะครับ) สู้เอาเวลาไปทำงานให้สมาคมฯมากๆเถอะครับ (ตามที่แนะนำข้างต้น) ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้วยังไม่เห็นแนวคิดใหม่หรือผลงานใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อภาพรวมธุรกิจและผู้บริโภค ออกมาจากคณะกรรมการสมาคมฯชุดนี้บ้างเลย อ้อ...เห็นผลงานล่าสุดเปลี่ยนชื่องานประชาสัมพันธ์สมาคมฯจาก News Home Builder (รับสร้างบ้านสี่มุมเมือง) เป็น Home Builder Focus ดูจะเป็นผลงานชิ้นโบแดงเลยล่ะ ยังไงก็ขอฝากสิ่งที่กระผมเสนอไว้เมื่อครั้งอยู่ในตำแหน่ง เลขาธิการสมาคม