ไปสัมมนา ทำประชาพิจารณ์ กฎหมายควบคุมอาคาร และสิ่งก่อสร้าง ที่กรมโยธาธิการ ว่าจ้าง ศูนย์วิชาการจุฬาฯ  ร่างขึ้นมาใหม่ มาถึงขั้นตอน ที่ ให้ฟังความเห็นต่างๆ จากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการ สร้าง และ ควบคุมใช้อาคารให้มีความปลอดภัย แต่ร่างนี้ เป็นการ ทำขึ้นมาใหม่เลย แทบไม่เหลืออะไร ที่คล้ายกฎหมายเก่าเลย เพราะ จุดประสงค์ การออกกฎหมาย เปลี่ยนแปลงไปเยอะ มาก ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะ ปัจจุบัน แค่ตามประเทศอาเซียน ก็ยังไม่ทัน หากยังใช้ระบบ ที่เป็นอยู่ เพราะ ถ้ามีระบบคอมพิวเตอร์ ที่ชาญฉลาดเข้ามาช่วยประมวณผล ให้ไม่ต้องใช้ดุลยพินิจมากเกินไป ระบบต่างๆ ก็จะดีขึ้นบ้าง แค่คำจำกัดความของ อาคาร และ สิ่งก่อสร้าง ที่เดิม กำหนดไว้ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงให้ครอบคลุมการใช้งานจริงได้ดีขึ้น

มี องค์กร หรือ หน่วยงาน และ ผู้เล่นหน้าใหม่ เข้ามาใน กฎหมาย มากขึ้น เช่น คณะกรรมการควบคุมอาคารและสิ่งปลูกสร้าง, ผู้ตรวจสอบ, ผู้ก่อสร้าง, ผู้จัดการ,กองทุน,คณะกรรมการบริหารกองทุน, อาสาสมัครควบคุมอาคารและสิ่งก่อสร้าง

ผู้ควบคุมงาน, เจ้าของ, ผู้ก่อสร้าง ก็ต้องลงทะเบียนในระบบ และ มี ค่าก่อสร้าง กำกับในการกำหนดบทลงโทษ เพื่อให้การบังคับใช้ มีผลตามขนาดของโครงการด้วย

ระบบสารสนเทศอาคารเข้ามามีบทบาท มากมาย ทำให้ข้อมูลของอาคาร ต้องจัดระบบ Bim ในบ้านเรา ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เพื่อเข้ากับระบบได้

ผู้ตรวจสอบ อาจมี ความสำคัญ ขนาดที่มาแทน เจ้าพนักงาน ในการออกใบอนุญาตให้ใช้อาคารครั้งแรก ได้เลย

การบังคับอาคารหรือ สิ่งก่อสร้าง ก็จะมีกองทุนเข้ามาให้ใช้เงินในการจัดจ้าง เพื่อใช้จ่ายในการบังคับอาคาร ที่ไม่ปลอดภัย ได้เลย

บทกำหนดโทษ ของ ผู้เกี่ยวข้อง ก็รุนแรงมาก ตามมูลค่าก่อสร้างด้วย ก็อาจจะทำให้ค่าจ้างในการทำงานวิชาชีพสูงขึ้น ตามความรับผิดชอบ

งานก่อสร้าง จะได้ผู้กระทำผิด ผู้สมรู้ร่วมคิด ได้ตรงไปตรงมามากขึ้น เพราะ มี login ให้เราสามารถ เข้าสู่ ระบบ เพื่อ รายงานทางคอมพิวเตอร์ ที่แม่นยำ และรวดเร็ว สามารถ จัดการปัญหา ที่เจ้าของโครงการ บังคับ ผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมา ให้ดำเนินการ ผิดไปจากแบบได้ดีขึ้น