ผู้ออกแบบ แก้ไขฐานรากเยื้องศูน...
ReadyPlanet.com


ผู้ออกแบบ แก้ไขฐานรากเยื้องศูนย์โดยขยายขนาดตอม่อและขยายฐานรากทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน


ผมมักพบเห็นผู้ออกแบบ งานแก้ไขฐานรากเยื้องศูนย์ ขยายฐานรากและเพิ่มเหล็กเสริมฐานรากแล้วยังจะต้องขยายขนาดตอม่อด้วยทั้งๆที่เราก็สามารถกำหนดให้ตอม่อตั้งที่เดิมตามแบบ แต่จะไปแก้ไขขนาดเหล็กเสริมและขยายขนาดฐานราก โดยเช็คการรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของเสาเข็มจากการเกิดเยื้องศูนย์ ก็แค่นั้น                        ไม่ทราบว่าคุณวีระ มีความคิดเห็นอย่างไรครับ

 



ผู้ตั้งกระทู้ ksc :: วันที่ลงประกาศ 2010-04-29 00:32:42 IP : 118.173.137.82


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1376665)

ต้องดูว่าหนีศูนย์เท่าไร ขนาดเสาเข็ม ขนาดตอม่อ และ มีการวิเคราะห์ว่า น้ำหนักที่เสาเข็มของตอม่อเสาที่อยู้ต้นข้างที่หนีศูนย์ด้วย

เสาเข็มแต่ละต้นรับน้ำหนักต่างกันเท่าไร ในระยะยาว มีโอกาสการทรุดตัวไม่เท่ากันไม๋ และ เสาเข็มปลายอยู่บนชั้นทรายแน่นมากไม๋ และ ออกแบบ ความปลอดภัยไว้เท่าไร

  ถ้าหนีศูนย์แล้วเสาเข็มรับน้ำหนักแตกต่างกันมากจนอาจเกิดการทรุดตัวแบบเอียง  อาจต้องใส่ คานยึดหัวเสาให้รับโมเมนต์ จะดีกว่า    ถ้าปานกลางก็ขยายตอม่อก็ได้ แต่ถ้าเล็กน้อยก็ทำแค่ฐานราก แล้วแต่ผู้ออกแบบครับ

หลักเกณฑ์การแก้ไขฐานรากที่มีเสาเข็มหนีศูนย์เกินกว่าค่าที่ยอมรับได้ตามมาตรฐาน ACI มีดังนี้

 

1. ตรวจสอบระยะหนีศูนย์ของเสาเข็ม (Pile Eccentricity) โดยทั่วไปค่าที่ยอมรับได้คือไม่เกิน 75 มม. หรือ 3 นิ้ว หากเกินกว่านี้ถือว่าหนีศูนย์มากเกินไป

 

2. วิเคราะห์ผลกระทบจากแรงเยื้องศูนย์ที่เพิ่มขึ้นต่อกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม โมเมนต์ดัด และแรงเฉือนที่เกิดขึ้น เพื่อประเมินความปลอดภัย

 

3. หากพบว่ามีความเสี่ยง วิศวกรต้องออกแบบวิธีเสริมความแข็งแรงให้ฐานรากและเสาเข็ม เช่น

- เพิ่มเสาเข็มตอม่อ (Battered Pile) เพื่อต้านทานแรงด้านข้าง

- ขยายขนาดฐานราก เพิ่มเหล็กเสริมรับแรงดัด

- เสริม Pile Cap ยึดหัวเสาเข็มเข้าด้วยกัน

- อัดฉีดคอนกรีตหรือเคมีภัณฑ์ เพื่อเพิ่มแรงยึดเหนี่ยวรอบเสาเข็ม

 

4. ในบางกรณีที่เสาเข็มหนีศูนย์มากจนยอมรับไม่ได้ อาจต้องพิจารณาทุบทิ้งและตอกใหม่ให้ได้ตำแหน่งตามแบบ

 

5. ควรมีการตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของฐานรากและโครงสร้างอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารมีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย

 

สรุปคือหากเสาเข็มหนีศูนย์เกินกว่าค่ายอมรับ จำเป็นต้องให้วิศวกรผู้ชำนาญประเมินความเสี่ยง แล้วเลือกวิธีแก้ไขเสริมความแข็งแรงที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาและข้อจำกัดในสนาม เพื่อให้ฐานรากสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม

 

หลักเกณฑ์การแก้ไขฐานรากที่มีเสาเข็มหนีศูนย์มากเกินค่าที่ยอมรับได้ตามมาตรฐาน ACI มีดังนี้

 

1. ตรวจสอบสาเหตุของการหนีศูนย์ เช่น คุณภาพของดิน น้ำใต้ดิน แรงดันด้านข้าง การขุดดินข้างเคียง ฯลฯ และแก้ไขที่ต้นเหตุ

 

2. วิเคราะห์ผลกระทบจากการหนีศูนย์ต่อกำลังรับน้ำหนักและการทรุดตัวของฐานราก ว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยหรือไม่

 

3. หากจำเป็นต้องเสริมกำลังฐานราก อาจพิจารณาวิธีการดังนี้

- เพิ่มขนาดหรือจำนวนเสาเข็มเสริม เพื่อช่วยรับน้ำหนักและลดการทรุดตัว

- ทำ Underpinning คือการเสริมเสาเข็มใหม่ลงในชั้นดินแข็งที่ลึกลงไปกว่าเดิม

- ใช้ Pile cap หรือ Grade beam เชื่อมหัวเสาเข็มเข้าด้วยกัน เพื่อกระจายน้ำหนัก

- อัดฉีดซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพดิน (Jet Grouting) เพื่อเพิ่มกำลังรับแรงของดิน

 

4. ในระหว่างการแก้ไข ต้องมีการตรวจวัดการทรุดตัวและเอียงเอนของอาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ไขนั้นปลอดภัย

 

5. หลังการแก้ไข ควรมีการตรวจสอบคุณภาพและบำรุงรักษาฐานรากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว

 

ทั้งนี้การแก้ไขฐานรากที่มีปัญหา ควรได้รับการออกแบบและควบคุมงานโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามหลักวิศวกรรมและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของอาคารและผู้ใช้งาน

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2010-05-22 21:49:11 IP : 125.27.78.138



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล